สนุกแบบตะโกน!! สำหรับการกลับมาเยือนเมืองไทยในรอบ 5 ปี ของ 3 หนุ่มชาวเกาะ FTISLAND ซึ่งประกอบด้วย Lee Hong Gi (อี ฮงกิ), Lee Jae Jin (อี แจจิน) และ Choi Min Hwan (ชเว มินฮวาน) กับคอนเสิร์ตที่มันส์สุดของแห่งปี สมศักดิ์ศรีศิลปินระดับตัวแด๊ด! 2023 FTISLAND LIVE ‘RE : FTISLAND’ IN BANGKOK ในวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ไบเทค ฮอลล์ 1-3 โดยการร่วมมือของผู้จัดฝีมือคุณภาพ Ujin Entertianment กับ Thailand Society และ Redcap
ซึ่งกลับมาครั้งนี้ FTISLAND ยังคงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทั้ง “พรีมาดอนน่า” (ชื่อแฟนคลับ) ที่มากันแน่นฮอลล์คอนเสิร์ต รวมถึงคณะสื่อมวลชน ที่มาร่วมงานแถลงข่าวและงานคอนเสิร์ตกันอย่างหนาแน่นไม่แพ้กัน โดยทั้ง 3 หนุ่มออกมาต้อนรับพร้อมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง โดยสิ่งแรกที่พวกเขาพูดถึงคือความคิดถึงประเทศไทย อาหารไทย และพรีมาดอนน่าไทย ที่บอกเลยว่าครั้งนี้เตรียมความพิเศษมาฝากอีกเพียบ และดีใจมากที่สุด ที่ได้มาฉลองครบรอบเดบิวต์ 16 ปี ร่วมกับแฟนๆ ชาวไทยในคอนเสิร์ตครั้งนี้
รายงานความพร้อมแบบ 100% กันแล้ว ก็มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย เตรียมนับถอยหลัง 3 2 1 สู่ 2023 FTISLAND LIVE ‘RE : FTISLAND’ IN BANGKOK เหล่าพรีมาดอนน่าพร้อมเพรียงกันโบกธง และแท่งไฟจนทั้งฮอลล์กลายเป็นสีเหลืองทอง พร้อมกรี๊ดกันแบบสุดเสียงต้อนรับ 3 หนุ่ม อีฮงกิ,อีแจจิน และ ชเว มินฮวาน ขึ้นบนเวที พร้อมประจำการในตำแหน่งของแต่ละคน ประเดิมเสียงร้องอันทรงพลัง และดนตรีอันหนักหน่วงกระแทกใจ ด้วยเพลง Don’t Lose YourSelf, TIME TO และ PRAY ซึ่งทำเหล่าพรีมาดอนน่านั่งไม่ติดเก้าอี้ ลุกกระโดดกันตั้งแต่วินาทีแรก!
้ง 3 หนุ่ม ขอเบรกทักทายแฟนๆ อย่างเป็นทางการ ด้วยการแนะนำตัวเป็นภาษาไทย เริ่มที่หนุ่มฮงกิ ที่ทักทายด้วยประโยค “สวัสดีครับ ผมฮงกิครับ ผมรักคนไทยมากๆ เก่งจังเล้ย!” หนุ่มแจจิน และมินฮวาน อ้อนต่อ “คิดถึงมากๆ ครับ” เป็น 5 ปีที่คิดถึงพรีมาดอนน่าไทยมากๆ วันนี้ขอให้ทุกคนสนุกจนจบคอนเสิร์ตนะ และไปสนุกต่อกับลิสต์เพลงใหม่ที่แฟนๆ จะได้ฟังเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น Champagne, PUPPY, Falling Star และ FREEDOM ซึ่งพอจบเพลย์ลิสต์นี้ นักร้องนำอย่างหนุ่ม “ฮงกิ” ถึงกับลงไปนอนบนเวที เพราะวิ่งไปหาแฟนๆ ทั้งฝั่งซ้าย-ฝั่งขวา ร้องไปวิ่งไปแบบเสียงไม่ตกแม้แต่โน้ตเดียว ส่วนแฟนๆ ด้านล่างเวทีก็มันส์ไม่แพ้กัน บัตรนั่งกลายเป็นบัตรยืน เก้าอี้มีหน้าที่เป็นแค่พร็อพเท่านั้น!!
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ที่ตั้งตารอมา 5 ปี ชาวพรีมาดอนน่าขอต่อเวลาแห่งความสุข ความสนุก ออกไปอีกนิด ระหว่างที่ 3 หนุ่มไปเตรียมตัวสำหรับอังกอร์ แฟนๆ ส่งเสียงเรียกพวกเขาตลอดเวลา และทั้ง 3 หนุ่มกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง กับเพลง Still With U และเผยความรู้สึกขอบคุณเหล่าพรีมาดอนน่าที่มาหาพวกเขาทั้ง 3 คนในวันนี้อีกด้วย โดยฮงกิ ก็ ได้บอกว่าการได้ทัวร์อีกครั้งในปีนี้แม้จะยุ่ง แต่อยากที่จะได้มาสนุกกับแฟนๆ ชาวไทย รู้สึกขอบคุณทุกๆคนด้วย ครั้งหน้าพวกเขาก็จะมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ และเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบเดบิวต์ 16 ปี ในฐานะ FTISLAND พร้อมกับอัลบั้มใหม่ๆ และคอนเสิร์ตต่อๆไป ส่วนแจจิน เองก็บอกว่า “ตั้งแต่เดบิวต์ พวกเราก็ชอบเมืองไทยมาตลอด พรีมาดอนนน่าไทยให้ความรักและกำลังใจกับพวกเราเสมอ ครั้งต่อไปหวังว่าพรีมาดอนน่าจะให้กำลังใจกันต่อไป อย่าป่วย หาเงินได้เยอะๆ ขอให้มีความสุขครับ” ปิดท้ายที่ มินฮวาน “พวกเราไปเกณฑ์ทหาร และมีโควิด-19 ด้วย ทำให้มีช่องว่างในการทำงานยาวพอสมควร แต่ว่าพอได้มาร้อง มาเล่นดนตรีให้ทุกคนได้ฟังในวันนี้ เรามีความสุขมากจริงๆ จากนี้ไปก็จะไม่มีอะไรขัดขวางได้แล้ว เราจะพยายามทำอัลบั้ม และคอนเสิร์ตต่อไปนะครับ”
สุดท้ายก่อนจะโบกมือลา พวกเขาก็ขอส่งเพลง Paradise เป็นของขวัญสุดท้าย ก่อนที่จะเซอร์ไพร์สยิ่งกว่า เมื่อพรีมาดอนน่าไทย เตรียมโปรเจกต์พิเศษมามอบให้พวกเขา ไม่ว่าจะเป็นป้ายแบนเนอร์ที่มีข้อความว่า “에프티를 지켜줘서 고마워요” ซึ่งมีความหมายว่า “ขอบคุณที่ปกป้องเอฟทีนะ” และแปลอักษรเป็นคำว่า “16주년💛” ซึ่งมีความหมายตรงตัวว่า “16 ปี💛” รวมถึงยังมีเค้กสุดน่ารักที่มามอบให้ 3 หนุ่ม เพื่อฉลองวันครบรอบเดบิวต์ 16 ปีไปด้วยกัน ซึ่งเหล่าพรีมาดอนน่าก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์เวอร์ชั่นเกาหลีให้หนุ่มๆ ฟังอีกด้วย แม้จะดำน้ำไปหน่อย แต่ทั้ง 3 หนุ่ม ก็สัมผัสได้ถึงความรักของแฟนๆ ที่มีต่อพวกเขาแน่นอน ยกให้เป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ สำหรับ 2023 FTISLAND LIVE ‘RE : FTISLAND’ IN BANGKOK เพราะไม่ว่าจะเป็น แสง สี เสียง โปรดักชั่น เรียกได้ว่าจัดเต็ม เมื่อบวกกับความเป็นหนึ่งด้านดนตรีของ 3 หนุ่ม FTISLAND ที่ทั้งร้องสด เล่นสด พลังร้อง พลังดนตรี ที่ไม่ใช่แค่เพราะ แต่กระแทกไปถึงใจคนฟัง ทำให้ตลอด 2 ชั่วโมงในคอนเสิร์ต ไม่มีวินาทีไหนที่แฟนเพลง แฟนคลับของพวกเขา ไม่สนุก ไม่กระโดด ไม่มันส์ ทำให้ FTISLAND ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เป็นวงดนตรีที่สักครั้งในชีวิตต้องมาชมพวกเขาเล่นคอนเสิร์ตให้ได้!